ดีลสันติภาพยังไม่ลงตัว! เซเลนสกีเผยสหรัฐฯ เสนอค้ำประกันความมั่นคง 15 ปี ยูเครนขอยาว 50 ปีเพื่อกันภัยระยะยาว
=
สถานการณ์สงครามรัสเซีย–ยูเครนยังคงอยู่ในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ หลัง โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของ ยูเครน ออกมาเปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกา ได้เสนอการรับประกันความมั่นคงให้ยูเครนเป็นระยะเวลา 15 ปี หากมีการลงนามในข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามกับ รัสเซีย อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายยูเครนมองว่าระยะเวลา 15 ปีอาจยังไม่เพียงพอในการสร้างความมั่นคงระยะยาว โดยเซเลนสกีระบุว่า ยูเครนต้องการหลักประกันที่ยาวนานกว่านั้น อาจสูงสุดถึง 50 ปี เพื่อป้องกันการกลับมาของภัยคุกคามในอนาคต และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน นักลงทุน และพันธมิตรระหว่างประเทศ ว่าสันติภาพที่ได้มาจะไม่เป็นเพียงช่วงหยุดพักชั่วคราว
ข้อเสนอของสหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันกระบวนการเจรจา เพราะการรับประกันความมั่นคงจากมหาอำนาจถือเป็น “หลักประกันทางการเมืองและการทหาร” ที่ยูเครนเรียกร้องมาโดยตลอด หลังประสบการณ์ในอดีตที่ข้อตกลงระหว่างประเทศไม่สามารถยับยั้งการรุกรานได้อย่างแท้จริง
นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระบุว่า ความต่างระหว่าง 15 ปี กับ 50 ปี สะท้อนช่องว่างทางความเชื่อมั่นอย่างชัดเจน ฝ่ายสหรัฐฯ ต้องการกรอบเวลาที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับบริบทการเมืองโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ขณะที่ยูเครนซึ่งเป็นประเทศแนวหน้าของความขัดแย้ง ต้องการความแน่นอนระยะยาว เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในความเสี่ยงซ้ำเดิมอีก
ในมุมการเมืองระหว่างประเทศ การรับประกันความมั่นคงยาวหลายทศวรรษ ยังอาจผูกพันรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดต่อๆ ไป ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวภายในประเทศ และอาจกระทบต่อดุลอำนาจกับพันธมิตรอื่น รวมถึงปฏิกิริยาจากรัสเซียที่อาจมองว่าเป็นการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในยุโรปตะวันออก
ท้ายที่สุด ประเด็นนี้สะท้อนว่า แม้ทุกฝ่ายพูดถึง “สันติภาพ” แต่เงื่อนไขและระยะเวลาการรับประกันความมั่นคง คือหัวใจสำคัญที่ยังต้องเจรจาอย่างเข้มข้น เพราะสำหรับยูเครน สันติภาพที่ไม่มีหลักประกันยาวพอ อาจไม่ต่างจากการพักรบที่พร้อมปะทุซ้ำได้ทุกเมื่อ
สถานการณ์สงครามรัสเซีย–ยูเครนยังคงอยู่ในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ หลัง โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของ ยูเครน ออกมาเปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกา ได้เสนอการรับประกันความมั่นคงให้ยูเครนเป็นระยะเวลา 15 ปี หากมีการลงนามในข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามกับ รัสเซีย อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายยูเครนมองว่าระยะเวลา 15 ปีอาจยังไม่เพียงพอในการสร้างความมั่นคงระยะยาว โดยเซเลนสกีระบุว่า ยูเครนต้องการหลักประกันที่ยาวนานกว่านั้น อาจสูงสุดถึง 50 ปี เพื่อป้องกันการกลับมาของภัยคุกคามในอนาคต และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน นักลงทุน และพันธมิตรระหว่างประเทศ ว่าสันติภาพที่ได้มาจะไม่เป็นเพียงช่วงหยุดพักชั่วคราว
ข้อเสนอของสหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันกระบวนการเจรจา เพราะการรับประกันความมั่นคงจากมหาอำนาจถือเป็น “หลักประกันทางการเมืองและการทหาร” ที่ยูเครนเรียกร้องมาโดยตลอด หลังประสบการณ์ในอดีตที่ข้อตกลงระหว่างประเทศไม่สามารถยับยั้งการรุกรานได้อย่างแท้จริง
นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระบุว่า ความต่างระหว่าง 15 ปี กับ 50 ปี สะท้อนช่องว่างทางความเชื่อมั่นอย่างชัดเจน ฝ่ายสหรัฐฯ ต้องการกรอบเวลาที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับบริบทการเมืองโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ขณะที่ยูเครนซึ่งเป็นประเทศแนวหน้าของความขัดแย้ง ต้องการความแน่นอนระยะยาว เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในความเสี่ยงซ้ำเดิมอีก
ในมุมการเมืองระหว่างประเทศ การรับประกันความมั่นคงยาวหลายทศวรรษ ยังอาจผูกพันรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดต่อๆ ไป ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวภายในประเทศ และอาจกระทบต่อดุลอำนาจกับพันธมิตรอื่น รวมถึงปฏิกิริยาจากรัสเซียที่อาจมองว่าเป็นการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในยุโรปตะวันออก
ท้ายที่สุด ประเด็นนี้สะท้อนว่า แม้ทุกฝ่ายพูดถึง “สันติภาพ” แต่เงื่อนไขและระยะเวลาการรับประกันความมั่นคง คือหัวใจสำคัญที่ยังต้องเจรจาอย่างเข้มข้น เพราะสำหรับยูเครน สันติภาพที่ไม่มีหลักประกันยาวพอ อาจไม่ต่างจากการพักรบที่พร้อมปะทุซ้ำได้ทุกเมื่อ
← กลับหน้ารายการข่าว