อนุทินลั่นชัด! พร้อมสร้างกำแพงชายแดน ปกป้องรั้วชาติ ย้ำเอาดินแดนไทยคืนครบทุกตารางนิ้ว หลังเห็นกับตาที่ปราสาทตาควาย–เนิน 350
=
ท่าทีด้านความมั่นคงชายแดนของรัฐบาลชัดเจนขึ้น เมื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ ปราสาทตาควาย และ เนิน 350 โดยย้ำว่าพร้อมเดินหน้าสร้าง “กำแพงและรั้วชายแดน” เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ หากพรรค พรรคภูมิใจไทย ได้รับความไว้วางใจกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง
นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้ไทยได้ลงนามในถ้อยแถลงหยุดยิงแล้ว และสถานการณ์โดยรวมยังไม่พบความผิดปกติร้ายแรง แม้อาจมีรายงานเหตุเล็กน้อยที่ยังไม่ถือเป็นภัยต่อประเทศ พร้อมยืนยันว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความเสียสละของกำลังพลอย่างชัดเจน โดยยอมรับว่า “สงสารทหาร” ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง แต่ขวัญกำลังใจยังดี แม้หลายคนจะคิดถึงบ้าน
เขาระบุว่า ทหารทุกนายไม่ว่าจะเป็นทหารเกณฑ์ ทหารอาสา หรือกำลังพลประจำ ต่างเป็นเหมือนลูกหลานของคนไทยทั้งประเทศ รัฐบาลจึงต้องดูแลเรื่องสวัสดิการและสวัสดิภาพอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณในการรักษาแผ่นดินและอธิปไตยของชาติ
สำหรับแนวคิดการสร้างกำแพงชายแดน นายอนุทินอธิบายว่า “กำแพง” คือสิ่งปลูกสร้างทางกายภาพ ส่วน “รั้ว” คือความเข้มแข็งของกองทัพไทย ซึ่งต้องทำให้แนวชายแดนมั่นคง แข็งแกร่ง ไม่เปิดช่องให้มีการคุกคามได้ง่าย ในฐานะวิศวกร เขายืนยันว่าการก่อสร้างสามารถทำได้ตามจุดยุทธศาสตร์ที่กองทัพกำหนดไว้ และงบประมาณเป็นฉันทามติด้านความมั่นคงของประเทศ
เมื่อถูกถามถึงการเจรจากับกัมพูชา นายอนุทินย้ำว่า ไม่ควรใช้คำว่า “ยึดคืน” เพราะพื้นที่เหล่านั้นเป็นดินแดนของไทยอยู่แล้ว สิ่งที่ทำคือการ “กลับไปสถาปนาอธิปไตย” ให้ชัดเจนว่าเป็นแผ่นดินของประเทศไทย และยืนยันว่า ไทยสามารถนำดินแดนทุกตารางนิ้วที่เห็นว่าเสียไปกลับคืนมาได้ครบถ้วน
ในประเด็นความเสียหายของปราสาทตาควาย นายอนุทินกล่าวว่า การรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนสำคัญกว่าสิ่งปลูกสร้าง และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว สิ่งที่เสียหายสามารถบูรณะได้ โดยได้หารือกับ ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยืนยันตรงกันว่าสามารถดำเนินการบูรณะในภายหลังได้
ท่าทีดังกล่าวสะท้อนจุดยืนของรัฐบาลที่เน้นความมั่นคงและอธิปไตยเป็นอันดับแรก พร้อมส่งสัญญาณชัดว่า หากแผ่นดินไทยถูกคุกคามเมื่อใด การปกป้องและทวงคืนจะไม่ขึ้นกับเทศกาลหรือช่วงเวลาใด แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำอย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง
ท่าทีด้านความมั่นคงชายแดนของรัฐบาลชัดเจนขึ้น เมื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ ปราสาทตาควาย และ เนิน 350 โดยย้ำว่าพร้อมเดินหน้าสร้าง “กำแพงและรั้วชายแดน” เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ หากพรรค พรรคภูมิใจไทย ได้รับความไว้วางใจกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง
นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้ไทยได้ลงนามในถ้อยแถลงหยุดยิงแล้ว และสถานการณ์โดยรวมยังไม่พบความผิดปกติร้ายแรง แม้อาจมีรายงานเหตุเล็กน้อยที่ยังไม่ถือเป็นภัยต่อประเทศ พร้อมยืนยันว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความเสียสละของกำลังพลอย่างชัดเจน โดยยอมรับว่า “สงสารทหาร” ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง แต่ขวัญกำลังใจยังดี แม้หลายคนจะคิดถึงบ้าน
เขาระบุว่า ทหารทุกนายไม่ว่าจะเป็นทหารเกณฑ์ ทหารอาสา หรือกำลังพลประจำ ต่างเป็นเหมือนลูกหลานของคนไทยทั้งประเทศ รัฐบาลจึงต้องดูแลเรื่องสวัสดิการและสวัสดิภาพอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณในการรักษาแผ่นดินและอธิปไตยของชาติ
สำหรับแนวคิดการสร้างกำแพงชายแดน นายอนุทินอธิบายว่า “กำแพง” คือสิ่งปลูกสร้างทางกายภาพ ส่วน “รั้ว” คือความเข้มแข็งของกองทัพไทย ซึ่งต้องทำให้แนวชายแดนมั่นคง แข็งแกร่ง ไม่เปิดช่องให้มีการคุกคามได้ง่าย ในฐานะวิศวกร เขายืนยันว่าการก่อสร้างสามารถทำได้ตามจุดยุทธศาสตร์ที่กองทัพกำหนดไว้ และงบประมาณเป็นฉันทามติด้านความมั่นคงของประเทศ
เมื่อถูกถามถึงการเจรจากับกัมพูชา นายอนุทินย้ำว่า ไม่ควรใช้คำว่า “ยึดคืน” เพราะพื้นที่เหล่านั้นเป็นดินแดนของไทยอยู่แล้ว สิ่งที่ทำคือการ “กลับไปสถาปนาอธิปไตย” ให้ชัดเจนว่าเป็นแผ่นดินของประเทศไทย และยืนยันว่า ไทยสามารถนำดินแดนทุกตารางนิ้วที่เห็นว่าเสียไปกลับคืนมาได้ครบถ้วน
ในประเด็นความเสียหายของปราสาทตาควาย นายอนุทินกล่าวว่า การรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนสำคัญกว่าสิ่งปลูกสร้าง และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว สิ่งที่เสียหายสามารถบูรณะได้ โดยได้หารือกับ ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยืนยันตรงกันว่าสามารถดำเนินการบูรณะในภายหลังได้
ท่าทีดังกล่าวสะท้อนจุดยืนของรัฐบาลที่เน้นความมั่นคงและอธิปไตยเป็นอันดับแรก พร้อมส่งสัญญาณชัดว่า หากแผ่นดินไทยถูกคุกคามเมื่อใด การปกป้องและทวงคืนจะไม่ขึ้นกับเทศกาลหรือช่วงเวลาใด แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำอย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง
← กลับหน้ารายการข่าว