แม่เต่าตนุวางไข่ 99 ฟองที่เกาะตาชัย สัญญาณฟื้นฟูธรรมชาติหลังปิดเกาะกว่า 9 ปี
📤 แชร์ข่าวนี้
🕒 2025-12-31 15:17:18
#แม่เต่าตนุ #เกาะตาชัย #วางไข่เต่า #อนุรักษ์ธรรมชาติ #อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน #ฟื้นฟูธรรมชาติ #สัตว์ทะเลหายาก #ท้องทะเลไทย #อนุรักษ์เต่าทะเล #น้ำทะเลหนุน #ลูกเต่าฟักตัว #ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน พบแม่เต่าตนุตัวใหญ่ วัดร่องใบพายกว้างถึง 87 เซนติเมตร กลับมาเลือกชายหาดของเกาะตาชัย จังหวัดพังงา เพื่อวางไข่จำนวน 99 ฟอง ซึ่งถือเป็นรังเต่ารังแรกของฤดูกาลสำหรับเกาะตาชัย และเป็นรังที่ 4 ของอุทยานฯ ในปีนี้ เหตุการณ์นี้ถือเป็นสัญญาณที่น่าประทับใจและเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าสู่ปีใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติในพื้นที่
นายศิริวัฒน์ สืบสาย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพบรังเต่าครั้งนี้ว่า หลังจากที่เกาะตาชัยถูกปิดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติและระบบนิเวศตั้งแต่ปี 2559 เกือบ 10 ปีเต็ม สภาพแวดล้อมในพื้นที่กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ ทั้งทะเลที่ใสสะอาดและชายหาดที่สะอาดปราศจากการรบกวน ส่งผลให้แม่เต่าตนุมั่นใจเลือกวางไข่ที่นี่อีกครั้ง นับเป็นหลักฐานชัดเจนว่าการให้เวลาธรรมชาติฟื้นฟูเป็นสิ่งที่ได้ผลจริง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตำแหน่งที่แม่เต่าวางไข่เดิมมีความเสี่ยงจากน้ำทะเลหนุนสูง เจ้าหน้าที่อุทยานจึงได้ดำเนินการย้ายรังไข่ไปยังจุดที่ปลอดภัยมากขึ้น พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกเต่าทั้ง 99 ตัวจะฟักตัวและสามารถเดินทางสู่ทะเลได้อย่างปลอดภัย การดูแลอย่างใกล้ชิดนี้สะท้อนถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบในการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากอย่างแท้จริง
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่เป็นข่าวดีต่อทีมงานอุทยานฯ เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความตระหนักรู้ของประชาชนไทยเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติทั่วประเทศ การที่แม่เต่ากลับมาใช้พื้นที่นี้เป็นที่วางไข่เป็นเครื่องยืนยันว่าความพยายามในการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติสามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริงในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนในอนาคต
ในแง่ของผลกระทบและแนวโน้ม การพบรังเต่าตนุในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของมาตรการฟื้นฟูธรรมชาติที่ถูกต้องและต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบนิเวศน์ทางทะเลโดยรวม ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและความสมบูรณ์ของแหล่งอนุบาลสัตว์ทะเล นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่เกาะตาชัย และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชนในระยะยาวผ่านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีความรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม การอนุรักษ์ต้องดำเนินควบคู่ไปกับการควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ภัยจากน้ำทะเลหนุนสูง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการรบกวนจากมนุษย์ เพื่อให้แม่เต่าและลูกเต่ามีโอกาสรอดสูงสุดในอนาคต การมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานรัฐ ชุมชน และประชาชนทั่วไป จะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสมบูรณ์ของธรรมชาติและสืบสานวงจรชีวิตของเต่าตนุให้คงอยู่ต่อไปในท้องทะเลไทย
📤 แชร์ข่าวนี้
← กลับหน้ารายการข่าว