ไหว้สะเทือนการเมือง! “อนุทิน” ยกมือท่วมหัวขอบคุณ “เท้ง” ลั่นไม่แก้ ม.112 ส่งสัญญาณใหม่เกมตั้งรัฐบาล
=
บรรยากาศการเมืองไทยเกิดแรงกระเพื่อมทันที หลัง “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แสดงท่าทีเกินคาดด้วยการยกมือไหว้ท่วมหัวและกล่าวขอบคุณ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ภายหลังยืนยันบนเวทีดีเบตว่า พรรคประชาชนไม่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี และถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในแวดวงการเมือง
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทีชัดเจนว่า รู้สึก “ตกใจ” กับจุดยืนดังกล่าว พร้อมย้อนถามผู้สื่อข่าวเพื่อยืนยันข้อมูล ก่อนจะแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ โดยระบุว่า การประกาศจุดยืนไม่แก้ ม.112 เป็นเรื่องที่ทำให้ประชาชนสบายใจ และถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อบรรยากาศทางการเมืองในภาพรวม คำพูดและท่าทางของผู้นำพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้ ถูกมองว่าไม่ใช่เพียงมารยาททางการเมือง แต่สะท้อนความสำคัญของประเด็นมาตรา 112 ในสมการจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถูกถามต่อว่า จุดยืนของพรรคประชาชนจะเปิดทางให้เกิดการจับมือร่วมรัฐบาลในอนาคตหรือไม่ นายอนุทินย้ำจุดยืนเดิมของพรรคภูมิใจไทยอย่างหนักแน่นว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลหรือกิจกรรมใดๆ กับพรรคหรือกลุ่มการเมืองที่แตะต้องมาตรา 112 พร้อมระบุว่าที่ผ่านมาพรรคยึดหลักนี้มาโดยตลอด และไม่เคยเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม นายอนุทินเลือกวางท่าทีระมัดระวัง เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง โดยย้ำว่า เรื่องการจับมือจัดตั้งรัฐบาลเป็น “ดุลยพินิจของประชาชน” ไม่ใช่สิ่งที่นักการเมืองควรพูดล่วงหน้า เพราะไม่สามารถแทนการตัดสินใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ คำตอบดังกล่าวสะท้อนกลยุทธ์ทางการเมืองที่หลีกเลี่ยงการผูกมัดอนาคต แต่ยังคงส่งสัญญาณเปิดพื้นที่ให้การเมืองเดินต่อ
นักวิเคราะห์มองว่า ท่าทีของทั้งสองฝ่ายอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้สมการทางการเมืองหลังเลือกตั้งมีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เป็นบททดสอบว่า เสียงของประชาชนจะเป็นตัวแปรชี้ขาดทิศทางการเมืองไทยอย่างแท้จริงเพียงใด
บรรยากาศการเมืองไทยเกิดแรงกระเพื่อมทันที หลัง “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แสดงท่าทีเกินคาดด้วยการยกมือไหว้ท่วมหัวและกล่าวขอบคุณ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ภายหลังยืนยันบนเวทีดีเบตว่า พรรคประชาชนไม่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี และถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในแวดวงการเมือง
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทีชัดเจนว่า รู้สึก “ตกใจ” กับจุดยืนดังกล่าว พร้อมย้อนถามผู้สื่อข่าวเพื่อยืนยันข้อมูล ก่อนจะแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ โดยระบุว่า การประกาศจุดยืนไม่แก้ ม.112 เป็นเรื่องที่ทำให้ประชาชนสบายใจ และถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อบรรยากาศทางการเมืองในภาพรวม คำพูดและท่าทางของผู้นำพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้ ถูกมองว่าไม่ใช่เพียงมารยาททางการเมือง แต่สะท้อนความสำคัญของประเด็นมาตรา 112 ในสมการจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถูกถามต่อว่า จุดยืนของพรรคประชาชนจะเปิดทางให้เกิดการจับมือร่วมรัฐบาลในอนาคตหรือไม่ นายอนุทินย้ำจุดยืนเดิมของพรรคภูมิใจไทยอย่างหนักแน่นว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลหรือกิจกรรมใดๆ กับพรรคหรือกลุ่มการเมืองที่แตะต้องมาตรา 112 พร้อมระบุว่าที่ผ่านมาพรรคยึดหลักนี้มาโดยตลอด และไม่เคยเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม นายอนุทินเลือกวางท่าทีระมัดระวัง เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง โดยย้ำว่า เรื่องการจับมือจัดตั้งรัฐบาลเป็น “ดุลยพินิจของประชาชน” ไม่ใช่สิ่งที่นักการเมืองควรพูดล่วงหน้า เพราะไม่สามารถแทนการตัดสินใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ คำตอบดังกล่าวสะท้อนกลยุทธ์ทางการเมืองที่หลีกเลี่ยงการผูกมัดอนาคต แต่ยังคงส่งสัญญาณเปิดพื้นที่ให้การเมืองเดินต่อ
นักวิเคราะห์มองว่า ท่าทีของทั้งสองฝ่ายอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้สมการทางการเมืองหลังเลือกตั้งมีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เป็นบททดสอบว่า เสียงของประชาชนจะเป็นตัวแปรชี้ขาดทิศทางการเมืองไทยอย่างแท้จริงเพียงใด
← กลับหน้ารายการข่าว