เงินสำรองไทยทุบสถิติโลก! พุ่งทะลุ 3 แสนล้านดอลลาร์ ขึ้นอันดับ 8 ของโลก เสริมเกราะกันวิกฤตการเงิน

=
ประเทศไทยสร้างสถิติสำคัญทางเศรษฐกิจอีกครั้ง เมื่อเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ เดือนธันวาคม 2568 พุ่งขึ้นแตะระดับ 301,919.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.38 ล้านล้านบาท นับเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และส่งให้ไทยขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 8 ของโลก ในด้านเงินทุนสำรอง สะท้อนฐานะการเงินระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญ

เงินทุนสำรองระหว่างประเทศถือเป็น “กันชนทางเศรษฐกิจ” ที่มีบทบาทสำคัญต่อเสถียรภาพประเทศ โดยมีไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท รองรับการชำระหนี้ต่างประเทศ เสริมความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และใช้ป้องกันหรือบรรเทาวิกฤตการเงินในยามฉุกเฉิน ตัวเลขที่พุ่งขึ้นครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่สถิติใหม่ แต่เป็นสัญญาณบวกต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทยในภาพรวม

นักเศรษฐศาสตร์มองว่า การสะสมเงินทุนสำรองในระดับสูงเช่นนี้ สะท้อนดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังมีความแข็งแรง เงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง และการบริหารจัดการเงินตราต่างประเทศที่รอบคอบของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งช่วยลดความเปราะบางจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนของค่าเงินโลก วิกฤตภูมิรัฐศาสตร์ หรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศคู่ค้า

อย่างไรก็ตาม มีเสียงตั้งข้อสังเกตว่า แม้เงินทุนสำรองจะสูงมาก แต่โจทย์สำคัญคือการนำเสถียรภาพดังกล่าวไปต่อยอดสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งการกระตุ้นการลงทุน การสร้างรายได้ และการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน เพราะเงินสำรองที่แข็งแกร่งจะมีความหมายสูงสุด ก็ต่อเมื่อสะท้อนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนในประเทศด้วย

ในบริบทเศรษฐกิจโลกที่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ตัวเลขเงินทุนสำรองระดับนี้จึงถูกมองว่าเป็น “หลักประกันความอุ่นใจ” ของไทย ว่าหากเกิดแรงกระแทกทางการเงิน ไทยยังมีศักยภาพเพียงพอในการรับมือ และรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจไว้ได้ในระยะยาว