เคานต์ดาวน์กร่อยกลางกรุง! ข้าวสารยอดจองหาย 30% นักท่องเที่ยวเบนเข็มหนีไทย เหตุชายแดนตึง-เที่ยวต่างประเทศถูกกว่า

=
บรรยากาศเคานต์ดาวน์ปีใหม่ย่านถนนข้าวสาร หนึ่งในแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวระดับโลกของไทย ส่อแววเงียบเหงากว่าหลายปีที่ผ่านมา หลังผู้ประกอบการเผยยอดจองที่พักและกิจกรรมลดลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สะท้อนสัญญาณชะลอตัวของภาคท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง

ปัจจัยสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือ ความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดน ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มแบ็กแพ็กเกอร์และนักท่องเที่ยวอิสระ ที่มองเรื่องความปลอดภัยเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ หลายรายเลือกเปลี่ยนแผนเดินทางไปยังประเทศอื่นในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, จีน และ เวียดนาม ซึ่งถูกมองว่ามีภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพที่ชัดเจนกว่าในช่วงเวลานี้

ขณะเดียวกัน ตลาดนักท่องเที่ยวไทยเองก็ไม่ได้ช่วยพยุงสถานการณ์มากนัก เนื่องจากคนไทยจำนวนไม่น้อยเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศแทน โดยให้เหตุผลว่าค่าตั๋วเครื่องบินและค่าที่พักในต่างประเทศบางแห่งมีราคาถูกกว่าการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่ราคาที่พักในแหล่งท่องเที่ยวหลักของไทยพุ่งสูงอย่างเห็นได้ชัด

ผู้ประกอบการในย่าน ถนนข้าวสาร ระบุว่า แม้จะยังมีนักท่องเที่ยวหลงเหลืออยู่ แต่บรรยากาศไม่คึกคักเหมือนในอดีต ร้านค้า บาร์ และที่พักหลายแห่งต้องปรับลดความคาดหวังด้านรายได้ และหันมาเน้นควบคุมต้นทุนมากขึ้น บางรายยอมรับว่านี่อาจเป็นหนึ่งในช่วงเคานต์ดาวน์ที่เงียบที่สุดในรอบหลายปี

นักวิเคราะห์ด้านท่องเที่ยวมองว่า สถานการณ์นี้สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างมากกว่าปัจจัยระยะสั้น ทั้งเรื่องความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ภาพลักษณ์ประเทศ และต้นทุนการท่องเที่ยวในไทยที่สูงขึ้นต่อเนื่อง หากไม่เร่งแก้ไข อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ท่องเที่ยวในระยะยาว

เคานต์ดาวน์ที่ควรเป็นช่วงเวลาแห่งความคึกคัก จึงกลายเป็นสัญญาณเตือนว่า การท่องเที่ยวไทยกำลังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรง และความเชื่อมั่นที่สั่นคลอน ซึ่งต้องการมาตรการฟื้นฟูอย่างจริงจังมากกว่าการพึ่งเทศกาลเพียงอย่างเดียว