เปิดตัวคนรุ่นใหม่! ภูมิใจไทยส่ง “พลอย ณัฐธิดา” วัย 25 ปี ลูกหลานบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ลงสนาม สส. เขย่าการเมืองท้องถิ่น
=
การเมืองไทยเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ชัดเจนขึ้น เมื่อ พรรคภูมิใจไทย ตัดสินใจส่ง ณัฐธิดา เล็กอุดากร หรือ “พลอย” อายุเพียง 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งครั้งนี้ กลายเป็นหนึ่งในผู้สมัครที่อายุน้อยที่สุดและถูกจับตามองมากที่สุดในสนามการเมือง
พลอย ณัฐธิดา ไม่ได้เป็นชื่อใหม่สำหรับคนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวของ ภูษิต เล็กอุดากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ และยังเป็นหลานของ เนวิน ชิดชอบ บุคคลสำคัญทางการเมืองและกีฬาของจังหวัด การลงสนามครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการผสมผสานระหว่าง “สายเลือดการเมืองท้องถิ่น” กับภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ที่พรรคต้องการผลักดัน
แหล่งข่าวทางการเมืองวิเคราะห์ว่า การตัดสินใจส่งผู้สมัครวัย 25 ปี สะท้อนยุทธศาสตร์ของภูมิใจไทยที่ต้องการขยายฐานเสียงคนรุ่นใหม่ ควบคู่ไปกับการรักษาฐานเสียงดั้งเดิมในพื้นที่บ้านใหญ่ การใช้ผู้สมัครที่มีทั้งความเชื่อมโยงทางตระกูลและความสดใหม่ทางภาพลักษณ์ อาจช่วยสร้างแรงดึงดูดต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่ ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนผ่านของคนทำงานการเมือง
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของ “พลอย ณัฐธิดา” ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้จะมีชื่อสกุลและเครือข่ายทางการเมืองที่แข็งแรง แต่คำถามสำคัญจากสังคมคือ ความพร้อม ประสบการณ์ และวิสัยทัศน์ในการทำหน้าที่ระดับชาติ โดยเฉพาะในสภาที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและแรงกดดันสูง
ในอีกมุมหนึ่ง ผู้สนับสนุนมองว่า การเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่สนามการเมือง คือสัญญาณบวกของระบบประชาธิปไตย หากผู้สมัครสามารถพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานและการทำงานจริง มากกว่าการพึ่งพานามสกุลหรือสายสัมพันธ์
การเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการชิงเก้าอี้ สส. แต่เป็นบททดสอบสำคัญว่า “คนรุ่นใหม่จากบ้านใหญ่การเมือง” จะสามารถเปลี่ยนภาพจำ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้มากน้อยเพียงใด
การเมืองไทยเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ชัดเจนขึ้น เมื่อ พรรคภูมิใจไทย ตัดสินใจส่ง ณัฐธิดา เล็กอุดากร หรือ “พลอย” อายุเพียง 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งครั้งนี้ กลายเป็นหนึ่งในผู้สมัครที่อายุน้อยที่สุดและถูกจับตามองมากที่สุดในสนามการเมือง
พลอย ณัฐธิดา ไม่ได้เป็นชื่อใหม่สำหรับคนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวของ ภูษิต เล็กอุดากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ และยังเป็นหลานของ เนวิน ชิดชอบ บุคคลสำคัญทางการเมืองและกีฬาของจังหวัด การลงสนามครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการผสมผสานระหว่าง “สายเลือดการเมืองท้องถิ่น” กับภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ที่พรรคต้องการผลักดัน
แหล่งข่าวทางการเมืองวิเคราะห์ว่า การตัดสินใจส่งผู้สมัครวัย 25 ปี สะท้อนยุทธศาสตร์ของภูมิใจไทยที่ต้องการขยายฐานเสียงคนรุ่นใหม่ ควบคู่ไปกับการรักษาฐานเสียงดั้งเดิมในพื้นที่บ้านใหญ่ การใช้ผู้สมัครที่มีทั้งความเชื่อมโยงทางตระกูลและความสดใหม่ทางภาพลักษณ์ อาจช่วยสร้างแรงดึงดูดต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่ ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนผ่านของคนทำงานการเมือง
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของ “พลอย ณัฐธิดา” ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้จะมีชื่อสกุลและเครือข่ายทางการเมืองที่แข็งแรง แต่คำถามสำคัญจากสังคมคือ ความพร้อม ประสบการณ์ และวิสัยทัศน์ในการทำหน้าที่ระดับชาติ โดยเฉพาะในสภาที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและแรงกดดันสูง
ในอีกมุมหนึ่ง ผู้สนับสนุนมองว่า การเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่สนามการเมือง คือสัญญาณบวกของระบบประชาธิปไตย หากผู้สมัครสามารถพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานและการทำงานจริง มากกว่าการพึ่งพานามสกุลหรือสายสัมพันธ์
การเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการชิงเก้าอี้ สส. แต่เป็นบททดสอบสำคัญว่า “คนรุ่นใหม่จากบ้านใหญ่การเมือง” จะสามารถเปลี่ยนภาพจำ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้มากน้อยเพียงใด
← กลับหน้ารายการข่าว