ไม่ขึ้นเวทีแต่ไม่หายไปไหน! “อนุทิน” เปิดเพจหาเสียงแจงชัด เหตุไม่ดีเบต ติดข้อจำกัดตำแหน่ง-ไม่สบายใจเกมโจมตี
=
การเมืองไทยในช่วงโค้งสำคัญของการเลือกตั้งเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค พรรคภูมิใจไทย ออกมาเปิดเพจหาเสียงอย่างเป็นทางการ พร้อมชี้แจงเหตุผลที่ตัดสินใจไม่ขึ้นเวทีดีเบต ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยย้ำว่าไม่ได้หลีกเลี่ยงการสื่อสารกับประชาชน แต่เลือกใช้ช่องทางที่เหมาะสมและอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย
นายอนุทินระบุผ่านเพจ “อนุทิน เบอร์ 37” ว่า นับจากวันนี้เป็นต้นไป เขาจะใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ เพื่ออธิบายนโยบาย แนวคิด และแนวทางการทำงานของตนเองและพรรคภูมิใจไทย ก่อนที่ประชาชนจะตัดสินใจลงคะแนนในวันเลือกตั้ง 8 กุมภาพันธ์ 2569 โดยย้ำว่าการตัดสินใจนี้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของ กกต. อย่างเคร่งครัด
เหตุผลสำคัญที่นายอนุทินยกขึ้นมา คือข้อจำกัดจากตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งทำให้ต้องระมัดระวังในการแสดงออกทางการเมือง รวมถึงความไม่สบายใจกับบรรยากาศของเวทีดีเบตที่มักกลายเป็นพื้นที่โจมตีกันไปมา มากกว่าการนำเสนอนโยบายอย่างสร้างสรรค์ เขามองว่า การเมืองที่ดีควรให้ประชาชนตัดสินจากเนื้อหาการทำงานจริง มากกว่าการโต้เถียงที่รุนแรง
ท่าทีดังกล่าวสะท้อนยุทธศาสตร์การหาเสียงที่แตกต่างจากคู่แข่งหลายพรรค ที่เลือกใช้เวทีดีเบตเป็นสนามหลักในการสร้างกระแส นายอนุทินเลือก “สื่อสารตรงถึงประชาชน” ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเชื่อว่าช่องทางนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนรับฟังข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และพิจารณานโยบายได้ด้วยตนเอง โดยไม่ถูกครอบงำด้วยบรรยากาศความขัดแย้ง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า การไม่ขึ้นเวทีดีเบตย่อมมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ด้านหนึ่งช่วยหลีกเลี่ยงแรงปะทะและความเสี่ยงทางการเมือง แต่อีกด้านอาจทำให้เสียโอกาสในการสื่อสารกับกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ต้องการเห็นการเผชิญหน้าเชิงนโยบายแบบเปิดเผย
ท้ายที่สุด การตัดสินใจของนายอนุทินจะได้ผลเพียงใด คงต้องรอคำตอบจากประชาชนในคูหาเลือกตั้ง ว่าการสื่อสารผ่านเพจและการนำเสนอนโยบายโดยไม่ขึ้นดีเบต จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและคว้าคะแนนเสียงได้มากน้อยแค่ไหน
การเมืองไทยในช่วงโค้งสำคัญของการเลือกตั้งเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค พรรคภูมิใจไทย ออกมาเปิดเพจหาเสียงอย่างเป็นทางการ พร้อมชี้แจงเหตุผลที่ตัดสินใจไม่ขึ้นเวทีดีเบต ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยย้ำว่าไม่ได้หลีกเลี่ยงการสื่อสารกับประชาชน แต่เลือกใช้ช่องทางที่เหมาะสมและอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย
นายอนุทินระบุผ่านเพจ “อนุทิน เบอร์ 37” ว่า นับจากวันนี้เป็นต้นไป เขาจะใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ เพื่ออธิบายนโยบาย แนวคิด และแนวทางการทำงานของตนเองและพรรคภูมิใจไทย ก่อนที่ประชาชนจะตัดสินใจลงคะแนนในวันเลือกตั้ง 8 กุมภาพันธ์ 2569 โดยย้ำว่าการตัดสินใจนี้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของ กกต. อย่างเคร่งครัด
เหตุผลสำคัญที่นายอนุทินยกขึ้นมา คือข้อจำกัดจากตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งทำให้ต้องระมัดระวังในการแสดงออกทางการเมือง รวมถึงความไม่สบายใจกับบรรยากาศของเวทีดีเบตที่มักกลายเป็นพื้นที่โจมตีกันไปมา มากกว่าการนำเสนอนโยบายอย่างสร้างสรรค์ เขามองว่า การเมืองที่ดีควรให้ประชาชนตัดสินจากเนื้อหาการทำงานจริง มากกว่าการโต้เถียงที่รุนแรง
ท่าทีดังกล่าวสะท้อนยุทธศาสตร์การหาเสียงที่แตกต่างจากคู่แข่งหลายพรรค ที่เลือกใช้เวทีดีเบตเป็นสนามหลักในการสร้างกระแส นายอนุทินเลือก “สื่อสารตรงถึงประชาชน” ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเชื่อว่าช่องทางนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนรับฟังข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และพิจารณานโยบายได้ด้วยตนเอง โดยไม่ถูกครอบงำด้วยบรรยากาศความขัดแย้ง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า การไม่ขึ้นเวทีดีเบตย่อมมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ด้านหนึ่งช่วยหลีกเลี่ยงแรงปะทะและความเสี่ยงทางการเมือง แต่อีกด้านอาจทำให้เสียโอกาสในการสื่อสารกับกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ต้องการเห็นการเผชิญหน้าเชิงนโยบายแบบเปิดเผย
ท้ายที่สุด การตัดสินใจของนายอนุทินจะได้ผลเพียงใด คงต้องรอคำตอบจากประชาชนในคูหาเลือกตั้ง ว่าการสื่อสารผ่านเพจและการนำเสนอนโยบายโดยไม่ขึ้นดีเบต จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและคว้าคะแนนเสียงได้มากน้อยแค่ไหน
← กลับหน้ารายการข่าว