จินนี่ลุกขึ้นปกป้องศักดิ์ศรี! โพสต์ชัดไม่ใช่การเมือง แต่คือการให้เกียรติผู้หญิง หลังดราม่าคอมเมนต์ “โดม ปกรณ์ ลัม”
=
จินนี่ ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ลูกสาวของ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ออกมาเคลื่อนไหวผ่าน Instagram แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนต่อกรณีดราม่าคอมเมนต์จาก โดม ปกรณ์ ลัม ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ โดยย้ำว่าสาระของเรื่องนี้ “ไม่ใช่ความเห็นทางการเมือง” แต่เป็นเรื่องพื้นฐานของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ในโพสต์ดังกล่าว จินนี่ระบุว่า เธอรู้สึกเสียใจและผิดหวังอย่างยิ่งที่สังคมปัจจุบันยังคงมีชุดความคิดและการกระทำที่ไม่ให้เกียรติผู้อื่น โดยเฉพาะเมื่อมาจากบุคคลสาธารณะที่มีอิทธิพลต่อความคิดของผู้คนจำนวนมาก เธอชี้ว่า แม้การทำงานทางการเมืองย่อมหลีกเลี่ยงการถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ แต่กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับการถกเถียงเชิงนโยบาย หากเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีและการเคารพกันในฐานะมนุษย์
จินนี่ย้ำว่าการสื่อสารที่มีลักษณะละเมิดหรือคุกคามทางเพศไม่ควรถูกทำให้เป็นเรื่องปกติในสังคม พร้อมประกาศว่าการออกมาพูดครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองและผู้หญิงทุกคน รวมถึงใช้เป็น “กรณีศึกษา” ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบของคำพูดในโลกออนไลน์
นอกจากนี้ เธอยังขอบคุณทุกข้อความและกำลังใจที่ส่งเข้ามา พร้อมอวยพรปีใหม่ให้ทุกคนมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างมีสติ และแสดงความหวังว่าในปีใหม่และปีต่อๆ ไป จะไม่มีใคร—ไม่ว่าจะอยู่ในครอบครัว หน้าที่ หรืออาชีพใด—ต้องเผชิญถ้อยคำหรือการกระทำที่ทำให้รู้สึกอับอายอีก
นักสังเกตการณ์มองว่า ท่าทีของจินนี่เป็นการวางกรอบการถกเถียงใหม่ จากดราม่าบุคคลไปสู่ประเด็นเชิงคุณค่าในสังคม โดยแยกให้ชัดระหว่าง “การวิจารณ์ทางการเมือง” กับ “การให้เกียรติ” ซึ่งเป็นเส้นแบ่งสำคัญในยุคที่คำพูดบนโซเชียลสามารถขยายผลได้อย่างรวดเร็ว
การเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการชี้แจงส่วนบุคคล แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงสังคมว่า เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต้องมาควบคู่กับความรับผิดชอบ และการเคารพศักดิ์ศรีของผู้อื่น
จินนี่ ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ลูกสาวของ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ออกมาเคลื่อนไหวผ่าน Instagram แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนต่อกรณีดราม่าคอมเมนต์จาก โดม ปกรณ์ ลัม ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ โดยย้ำว่าสาระของเรื่องนี้ “ไม่ใช่ความเห็นทางการเมือง” แต่เป็นเรื่องพื้นฐานของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ในโพสต์ดังกล่าว จินนี่ระบุว่า เธอรู้สึกเสียใจและผิดหวังอย่างยิ่งที่สังคมปัจจุบันยังคงมีชุดความคิดและการกระทำที่ไม่ให้เกียรติผู้อื่น โดยเฉพาะเมื่อมาจากบุคคลสาธารณะที่มีอิทธิพลต่อความคิดของผู้คนจำนวนมาก เธอชี้ว่า แม้การทำงานทางการเมืองย่อมหลีกเลี่ยงการถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ แต่กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับการถกเถียงเชิงนโยบาย หากเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีและการเคารพกันในฐานะมนุษย์
จินนี่ย้ำว่าการสื่อสารที่มีลักษณะละเมิดหรือคุกคามทางเพศไม่ควรถูกทำให้เป็นเรื่องปกติในสังคม พร้อมประกาศว่าการออกมาพูดครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองและผู้หญิงทุกคน รวมถึงใช้เป็น “กรณีศึกษา” ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบของคำพูดในโลกออนไลน์
นอกจากนี้ เธอยังขอบคุณทุกข้อความและกำลังใจที่ส่งเข้ามา พร้อมอวยพรปีใหม่ให้ทุกคนมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างมีสติ และแสดงความหวังว่าในปีใหม่และปีต่อๆ ไป จะไม่มีใคร—ไม่ว่าจะอยู่ในครอบครัว หน้าที่ หรืออาชีพใด—ต้องเผชิญถ้อยคำหรือการกระทำที่ทำให้รู้สึกอับอายอีก
นักสังเกตการณ์มองว่า ท่าทีของจินนี่เป็นการวางกรอบการถกเถียงใหม่ จากดราม่าบุคคลไปสู่ประเด็นเชิงคุณค่าในสังคม โดยแยกให้ชัดระหว่าง “การวิจารณ์ทางการเมือง” กับ “การให้เกียรติ” ซึ่งเป็นเส้นแบ่งสำคัญในยุคที่คำพูดบนโซเชียลสามารถขยายผลได้อย่างรวดเร็ว
การเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการชี้แจงส่วนบุคคล แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงสังคมว่า เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต้องมาควบคู่กับความรับผิดชอบ และการเคารพศักดิ์ศรีของผู้อื่น
← กลับหน้ารายการข่าว