ทัพเรือสกัดกลางอ่าว! จับเรือปริศนาขนน้ำมันเถื่อนหมื่นลิตร ลูกเรือเขมร–ไทยไร้เอกสาร

=
กองทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับ ศรชล.ภาค 1 แถลงผลการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันต้องสงสัยกลางอ่าวไทย หลังตรวจพบความผิดปกติบริเวณห่างจากเกาะเสม็ดราว 50 ไมล์ทะเล โดยเรือลำดังกล่าวไม่แสดงชื่อเรือ ไม่ระบุสัญชาติ และไม่เปิดระบบติดตามเรืออัตโนมัติ (AIS) ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่เข้าข่ายหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

จากการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบลูกเรือทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย คนไทย 3 คน ชาวไทยใหญ่ 1 คน และชาวกัมพูชา 4 คน แต่ทั้งหมดไม่สามารถแสดงเอกสารประจำเรือหรือหนังสือเดินทางได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งให้การวกวนและไม่ชี้แจงที่มาของน้ำมันบนเรือได้อย่างชัดเจน

การตรวจสอบภายในเรือพบว่าน้ำมันดีเซลบรรทุกอยู่ประมาณ 10,000 ลิตร ซึ่งคาดว่าเป็นน้ำมันเถื่อนที่เตรียมลักลอบขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมเรือและลูกเรือทั้งหมด นำเข้าท่าเทียบเรือจุกเสม็ด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียด และดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

กองทัพเรือภาคที่ 1 ระบุว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่ง “จักรพงศ์ภูวนารถ 682” ซึ่งมุ่งเน้นการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยทางทะเล การลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย และการกระทำที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

ด้านเจ้าหน้าที่ ศรชล. ย้ำว่า ปัญหาการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนยังคงเป็นภัยเงียบในอ่าวไทย ไม่เพียงสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการหลีกเลี่ยงภาษี แต่ยังเชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ การตรวจพบเรือที่ปิด AIS และไม่แสดงสัญชาติ จึงถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ ทัพเรือภาคที่ 1 ยืนยันจะเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวน ตรวจสอบเรือต้องสงสัย และบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล และรักษาอธิปไตยของไทยในอ่าวไทยอย่างเด็ดขาด