คดีเขย่าศรัทธา! สตง.ยังชี้ชัดความผิดไม่ได้ ศาลนัดสืบพยานปี 2026 เปิดตัวเลขสูญเสียอาคารพันล้านถล่ม

=
รายงานสรุปผลการตรวจสอบล่าสุดจาก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสังคมอีกครั้ง เมื่อระบุว่ายังไม่สามารถชี้ชัดเพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐรายใดได้โดยตรง แม้เหตุการณ์จะก่อให้เกิดความสูญเสียรุนแรงทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม สตง. ยืนยันจุดยืนพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของสาธารณชน และผลักดันให้ความจริงปรากฏครบถ้วน

ประเด็นสำคัญที่สังคมจับตา คือช่องว่างระหว่าง “ข้อเท็จจริงเชิงตัวเลข” กับ “ความรับผิดเชิงกฎหมาย” รายงานสะท้อนว่าการตรวจสอบยังอยู่ในขั้นรวบรวมพยานหลักฐานและวิเคราะห์กระบวนการใช้งบประมาณและการกำกับดูแล แม้ยังไม่ชี้ตัวผู้กระทำผิดได้ แต่คำยืนยันเรื่องความโปร่งใสถูกมองว่าเป็นสัญญาณว่าหน่วยงานพร้อมเปิดข้อมูลและยอมรับการตรวจสอบจากภายนอก

ในส่วนของกระบวนการยุติธรรม ศาลอาญา ได้กำหนดนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในช่วงกลางปี 2026 ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของคดี หลังสังคมเฝ้ารอความคืบหน้ามาอย่างยาวนาน การเริ่มต้นไต่สวนอย่างเป็นทางการจะเป็นบททดสอบว่าพยานหลักฐานที่รวบรวมมาจะสามารถคลี่คลายข้อสงสัย และนำไปสู่ความรับผิดตามกฎหมายได้หรือไม่

ข้อมูลความสูญเสียที่เปิดเผยยิ่งตอกย้ำความร้ายแรงของเหตุการณ์ ตัวเลขผู้เสียชีวิตสรุปอยู่ที่ประมาณ 89–95 ราย และมีผู้รอดชีวิตเพียง 9 ราย ขณะที่อาคารสูง 30 ชั้น ซึ่งใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 2,000 ล้านบาท พังทลายเสียหายทั้งหมด ความสูญเสียระดับนี้ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงมาตรฐานความปลอดภัย การกำกับโครงการ และการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ

นักวิชาการและภาคประชาชนเห็นตรงกันว่า ประเด็นสำคัญไม่ใช่เพียงการหาคนผิด แต่คือการป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมซ้ำรอย การตรวจสอบต้องนำไปสู่การปรับปรุงระบบ ตั้งแต่การออกแบบ การควบคุมงาน ไปจนถึงความรับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้องทุกระดับ

ท้ายที่สุด คดีนี้จึงเป็นมากกว่าความผิดพลาดของโครงการหนึ่ง แต่เป็นบทพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของกลไกรัฐ ว่าจะสามารถคืนความยุติธรรมให้ผู้สูญเสีย และฟื้นศรัทธาของสังคมได้จริงหรือไม่