ฮุน เซนส่งสัญญาณชัด! กัมพูชาไม่รับผลจากการใช้กำลัง เร่งนัดประชุม JBC ปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา
=
ท่าทีการเมืองชายแดนไทย–กัมพูชาเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาแถลงยืนยันว่า กัมพูชาจะไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของเส้นเขตแดนที่เกิดจากการใช้กำลัง พร้อมเร่งเดินหน้ากลไกทางการทูต ด้วยการเสนอขอนัดประชุม คณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ระหว่างไทย–กัมพูชาเป็นกรณีเร่งด่วน
แถลงการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2568 ผ่านสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการกิจการชายแดนกัมพูชา (SSBA) โดยระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ส่งบันทึกทางการทูตอย่างเป็นทางการไปยัง JBC ฝ่ายไทย เพื่อขอจัดประชุมพิเศษในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2569 ณ เมือง เสียมราฐ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเร่งกระบวนการสำรวจและปักปันเขตแดนร่วมกันในพื้นที่ที่เคยเป็นประเด็นขัดแย้ง
วาระสำคัญที่กัมพูชาเสนอ ได้แก่ การส่งทีมสำรวจร่วมลงพื้นที่จริงในหลายจุดอ่อนไหว อาทิ บริเวณระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42–47 ในพื้นที่บ้านจกเจยและเปรยจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจย รวมถึงช่วงหลักเขตแดน 52–59 ในพื้นที่ตำบลบึงเรียงและตำบลกัมเรียง จังหวัดพระตะบอง นอกจากนี้ ยังครอบคลุมพื้นที่ทมอดา จังหวัดโพธิสัตว์ ระหว่างหลักเขตแดน 33–37 จุดผ่านแดนระหว่างประเทศตำบลทมอดา พื้นที่โอพลุกดอมเรย พื้นที่ชายแดนชอร์ 1 (Chor 1) และแนวเขตลำน้ำตามเส้นตรงในหลายช่วง
แถลงการณ์ยังอ้างอิงถึงเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจจากการประชุม JBC ไทย–กัมพูชา ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ณ กรุง พนมเปญ โดยย้ำว่ากัมพูชายึดถือหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และเส้นเขตแดนที่สืบทอดมาจากคณะกรรมการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีนและสยามเป็นหลัก
นักวิเคราะห์มองว่า ท่าทีของฮุน เซนครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองที่ต้องการดึงประเด็นชายแดนกลับเข้าสู่กรอบการเจรจาและกลไกทางการทูต ลดโอกาสการเผชิญหน้าทางทหาร พร้อมย้ำจุดยืนว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดจากการใช้กำลังจะไม่ถูกยอมรับในทุกกรณี
ท้ายที่สุด SSBA ยังเรียกร้องให้ประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นในรัฐบาลและการทำงานของ JBC ฝ่ายกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นมืออาชีพ และยึดผลประโยชน์สูงสุดของชาติเป็นหลัก เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
ท่าทีการเมืองชายแดนไทย–กัมพูชาเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาแถลงยืนยันว่า กัมพูชาจะไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของเส้นเขตแดนที่เกิดจากการใช้กำลัง พร้อมเร่งเดินหน้ากลไกทางการทูต ด้วยการเสนอขอนัดประชุม คณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ระหว่างไทย–กัมพูชาเป็นกรณีเร่งด่วน
แถลงการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2568 ผ่านสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการกิจการชายแดนกัมพูชา (SSBA) โดยระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ส่งบันทึกทางการทูตอย่างเป็นทางการไปยัง JBC ฝ่ายไทย เพื่อขอจัดประชุมพิเศษในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2569 ณ เมือง เสียมราฐ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเร่งกระบวนการสำรวจและปักปันเขตแดนร่วมกันในพื้นที่ที่เคยเป็นประเด็นขัดแย้ง
วาระสำคัญที่กัมพูชาเสนอ ได้แก่ การส่งทีมสำรวจร่วมลงพื้นที่จริงในหลายจุดอ่อนไหว อาทิ บริเวณระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42–47 ในพื้นที่บ้านจกเจยและเปรยจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจย รวมถึงช่วงหลักเขตแดน 52–59 ในพื้นที่ตำบลบึงเรียงและตำบลกัมเรียง จังหวัดพระตะบอง นอกจากนี้ ยังครอบคลุมพื้นที่ทมอดา จังหวัดโพธิสัตว์ ระหว่างหลักเขตแดน 33–37 จุดผ่านแดนระหว่างประเทศตำบลทมอดา พื้นที่โอพลุกดอมเรย พื้นที่ชายแดนชอร์ 1 (Chor 1) และแนวเขตลำน้ำตามเส้นตรงในหลายช่วง
แถลงการณ์ยังอ้างอิงถึงเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจจากการประชุม JBC ไทย–กัมพูชา ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ณ กรุง พนมเปญ โดยย้ำว่ากัมพูชายึดถือหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และเส้นเขตแดนที่สืบทอดมาจากคณะกรรมการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีนและสยามเป็นหลัก
นักวิเคราะห์มองว่า ท่าทีของฮุน เซนครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองที่ต้องการดึงประเด็นชายแดนกลับเข้าสู่กรอบการเจรจาและกลไกทางการทูต ลดโอกาสการเผชิญหน้าทางทหาร พร้อมย้ำจุดยืนว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดจากการใช้กำลังจะไม่ถูกยอมรับในทุกกรณี
ท้ายที่สุด SSBA ยังเรียกร้องให้ประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นในรัฐบาลและการทำงานของ JBC ฝ่ายกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นมืออาชีพ และยึดผลประโยชน์สูงสุดของชาติเป็นหลัก เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
← กลับหน้ารายการข่าว